ไหมร้อยหน้า มีกี่แบบ? การ ร้อยไหม TESSLIFT SOFT คืออะไร?
เส้นไหมที่ใช้ในการร้อยใบหน้ามี 2 ประเภทหลัก ได้แก่ เส้นไหมแบบ “Polylactic acid” และไหมแบบ “Polydioxanone (PDO)” นอกจากวัสดุที่นำมาใช้ในการทำเส้นไหมแล้ว เงี่ยง หรือหนามของเส้นไหมแต่ละแบบ ก็มีการดีไซน์ที่แตกต่างกันอีกด้วย มีคุณสมบัติช่วยในการดึงยกกระชับใบหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะมาแนะนำเส้นไหมที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยนำมาฝากกัน และจะมาแนะนำเส้นไหมรุ่นใหม่อย่าง เส้นไหมโครงข่าย 3 มิติหรือ การร้อยไหมโครงตาข่าย ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการร้อยไหมแบบเดิมทั่วไป ใช้เทคโนโลยีกระตุ้นสร้างเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ ที่ช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากประเทศเกาหลี

ทำความรู้จักกับลักษณะของเส้นไหม
ลักษณะของเส้นไหมมีหลายแบบ ให้ประสิทธิภาพในการยกกระชับใบหน้า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแตกต่างกันไป ดังนั้นการเลือกใช้ไหมก็จะไม่เหมือนกัน เราจะมาแนะนำ เส้นไหมที่นิยมใช้งานกัน และจะมาแนะนำเส้นไหมนวัตกรรมใหม่จากเกาหลี ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเส้นไหมรุ่นเก่าอีกด้วย
1. ไหมแบบเรียบ (Mono thread)
สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ ไหมแบบเรียบตรง และไหมแบบเกลียว
- ไหมแบบเรียบตรง ไหมที่ไม่มีเงี่ยง มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูกระชับขึ้น และช่วยการรักษาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง แต่ด้วยความที่ไม่มีเงี่ยง ไม่มีหนามเงี่ยงออกมา จึงไม่ช่วยยกกระชับส่วนที่หย่อนคล้อยเท่าไหร่นัก
- ไหมแบบเกลียว มีลักษณะเป็นเส้นไหมที่พันเกลียว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี และช่วยทำให้ผิวให้ดูอิ่มฟูดีขึ้น
2. ไหมแบบเงี่ยง (Barb thread)
เป็นเส้นไหมที่มีเงี่ยง หรือหนาม ยื่นออกมาจากเส้นไหม ทำหน้าที่ในการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้ดีขึ้น และเมื่อเงี่ยงทำการยึดเกาะแล้วก็สามารถช่วยในเรื่องของการดึงเพื่อยกกระชับได้ โดยเงี่ยงอาจมี 1 ทิศทางหรือ 2 ทิศทางก็ได้ เห็น ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้ดี ยกแก้ม ยกร่องน้ำหมาก ยกร่องแก้ม ล็อกผิวได้ดี
3. เส้นไหมโครงข่าย 3 มิติ หรือ การร้อยไหมโครงตาข่าย
เป็นนวัตกรรมใหม่ของเส้นไหม ที่นำมาใช้ในการร้อยยกกระชับใบหน้า และมีส่วนช่วยในการยึดเกาะตลอดจนกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรืออีลาสตินในชั้นผิวได้ดี เป็นเส้นไหมที่มีเงี่ยง 2 ทิศทาง และถูกคลุมด้วยโครงตาข่าย ซึ่งช่วยเพิ่มยกระดับการยึดเกาะที่แน่นกว่าเดิม เส้นไหมไม่หลุดไม่เคลื่อนไปจากตำแหน่งที่ล็อกเอาไว้แบบง่าย ๆ ตาข่าย 3 มิติทอพิเศษทำจากวัสดุ PDO เป็นเส้นไหมที่ สามารถย่อยสลายได้แบบหมดจด และร่างกายก็จะดูดซึมไปเอง ทำให้ไม่มีสิ่งตกค้างอยู่บนใบหน้าของคุณอย่างแน่นอน

ไหมโครงตาข่าย นำเข้าโดยบริษัท Edencolors Thailand
- ผ่านการตรวจสอบจาก: Korean FDA, Thai FDA , CE MARK
- ขนาด: 1 strand (165mm) + 18G Cannula
- บรรจุ 1 กล่อง: 10 strands + 10 Cannulas / Box
ไหมโครงตาข่าย เส้นไหมนวัตกรรมใหม่ ที่ทำให้ผู้เข้ารับบริการพบกับผลลัพธ์ที่พึงพอใจ เป็นที่ไว้วางใจจากคุณหมอ คลินิก สถานเสริมความงามชั้นนำในประเทศไทยจำนวนมาก

ทำความรู้จักกับไหมโครงตาข่าย
ไหมโครงตาข่าย คือ เส้นไหมที่ใช้ในการยกกระชับที่ทำจากโพลีไดออกซาโนน (POD) ที่ละลายได้ทางชีวภาพ ซึ่งเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อของมนุษย์ เป็นวิธีการยกกระชับเนื้อเยื่อใบหน้าและบริเวณเหนียง (Double Chin) รูปแบบไหมที่ได้รับการวิจัยและผลิตมาจากประเทศเกาหลี เป็นการผสมผสานระหว่างเส้นไหมและตาข่าย ซึ่งเรียกว่า การปลูกถ่ายเนื้อเยื้อผ่านรูตาข่ายแบบ 3 มิติ หรือ TESS Technology (Tissue Elevation Suspension System) ได้รับการจดสิทธิบัตรในชื่อ Tesslift Soft ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยมีด้ายเป็นแกนสอดใส่พร้อมกับตะขอและเส้นใยที่มีโครงสร้างขั้นสูง
โครงตาข่ายรอบไหมทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ตลอดจนช่วยสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิกภายในร่างกาย ด้วยเหตุนี้ไหมโครงตาข่าย จึงให้เกิดการยกกระชับทันที และยังมีการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อและความต้านทานแรงดึงได้มากกว่าการร้อยไหมทั่วไปถึง 80 เท่า
การร้อยไหมด้วยไหมโครงข่าย ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ไม่ต้องพักฟื้นนาน และคงผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
บทความอื่นๆที่ใกล้เคียง

สารบัญเนื้อหา
เส้นไหมที่ใช้ในการร้อยใบหน้ามี 2 ประเภทหลัก ได้แก่ เส้นไหมแบบ “Polylactic acid” และไหมแบบ “Polydioxanone (PDO)” นอกจากวัสดุที่นำมาใช้ในการทำเส้นไหมแล้ว เงี่ยง หรือหนามของเส้นไหมแต่ละแบบ ก็มีการดีไซน์ที่แตกต่างกันอีกด้วย มีคุณสมบัติช่วยในการดึงยกกระชับใบหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะมาแนะนำเส้นไหมที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยนำมาฝากกัน และจะมาแนะนำเส้นไหมรุ่นใหม่อย่าง เส้นไหมโครงข่าย 3 มิติหรือ การร้อยไหมโครงตาข่าย ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการร้อยไหมแบบเดิมทั่วไป ใช้เทคโนโลยีกระตุ้นสร้างเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ ที่ช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากประเทศเกาหลี

ทำความรู้จักกับลักษณะของเส้นไหม
ลักษณะของเส้นไหมมีหลายแบบ ให้ประสิทธิภาพในการยกกระชับใบหน้า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแตกต่างกันไป ดังนั้นการเลือกใช้ไหมก็จะไม่เหมือนกัน เราจะมาแนะนำ เส้นไหมที่นิยมใช้งานกัน และจะมาแนะนำเส้นไหมนวัตกรรมใหม่จากเกาหลี ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเส้นไหมรุ่นเก่าอีกด้วย
1. ไหมแบบเรียบ (Mono thread)
สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ ไหมแบบเรียบตรง และไหมแบบเกลียว
- ไหมแบบเรียบตรง ไหมที่ไม่มีเงี่ยง มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูกระชับขึ้น และช่วยการรักษาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง แต่ด้วยความที่ไม่มีเงี่ยง ไม่มีหนามเงี่ยงออกมา จึงไม่ช่วยยกกระชับส่วนที่หย่อนคล้อยเท่าไหร่นัก
- ไหมแบบเกลียว มีลักษณะเป็นเส้นไหมที่พันเกลียว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี และช่วยทำให้ผิวให้ดูอิ่มฟูดีขึ้น
2. ไหมแบบเงี่ยง (Barb thread)
เป็นเส้นไหมที่มีเงี่ยง หรือหนาม ยื่นออกมาจากเส้นไหม ทำหน้าที่ในการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้ดีขึ้น และเมื่อเงี่ยงทำการยึดเกาะแล้วก็สามารถช่วยในเรื่องของการดึงเพื่อยกกระชับได้ โดยเงี่ยงอาจมี 1 ทิศทางหรือ 2 ทิศทางก็ได้ เห็น ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้ดี ยกแก้ม ยกร่องน้ำหมาก ยกร่องแก้ม ล็อกผิวได้ดี
3. เส้นไหมโครงข่าย 3 มิติ หรือ การร้อยไหมโครงตาข่าย
เป็นนวัตกรรมใหม่ของเส้นไหม ที่นำมาใช้ในการร้อยยกกระชับใบหน้า และมีส่วนช่วยในการยึดเกาะตลอดจนกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรืออีลาสตินในชั้นผิวได้ดี เป็นเส้นไหมที่มีเงี่ยง 2 ทิศทาง และถูกคลุมด้วยโครงตาข่าย ซึ่งช่วยเพิ่มยกระดับการยึดเกาะที่แน่นกว่าเดิม เส้นไหมไม่หลุดไม่เคลื่อนไปจากตำแหน่งที่ล็อกเอาไว้แบบง่าย ๆ ตาข่าย 3 มิติทอพิเศษทำจากวัสดุ PDO เป็นเส้นไหมที่ สามารถย่อยสลายได้แบบหมดจด และร่างกายก็จะดูดซึมไปเอง ทำให้ไม่มีสิ่งตกค้างอยู่บนใบหน้าของคุณอย่างแน่นอน

ไหมโครงตาข่าย นำเข้าโดยบริษัท Edencolors Thailand
- ผ่านการตรวจสอบจาก: Korean FDA, Thai FDA , CE MARK
- ขนาด: 1 strand (165mm) + 18G Cannula
- บรรจุ 1 กล่อง: 10 strands + 10 Cannulas / Box
ไหมโครงตาข่าย เส้นไหมนวัตกรรมใหม่ ที่ทำให้ผู้เข้ารับบริการพบกับผลลัพธ์ที่พึงพอใจ เป็นที่ไว้วางใจจากคุณหมอ คลินิก สถานเสริมความงามชั้นนำในประเทศไทยจำนวนมาก

ทำความรู้จักกับไหมโครงตาข่าย
ไหมโครงตาข่าย คือ เส้นไหมที่ใช้ในการยกกระชับที่ทำจากโพลีไดออกซาโนน (POD) ที่ละลายได้ทางชีวภาพ ซึ่งเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อของมนุษย์ เป็นวิธีการยกกระชับเนื้อเยื่อใบหน้าและบริเวณเหนียง (Double Chin) รูปแบบไหมที่ได้รับการวิจัยและผลิตมาจากประเทศเกาหลี เป็นการผสมผสานระหว่างเส้นไหมและตาข่าย ซึ่งเรียกว่า การปลูกถ่ายเนื้อเยื้อผ่านรูตาข่ายแบบ 3 มิติ หรือ TESS Technology (Tissue Elevation Suspension System) ได้รับการจดสิทธิบัตรในชื่อ Tesslift Soft ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยมีด้ายเป็นแกนสอดใส่พร้อมกับตะขอและเส้นใยที่มีโครงสร้างขั้นสูง
โครงตาข่ายรอบไหมทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ตลอดจนช่วยสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิกภายในร่างกาย ด้วยเหตุนี้ไหมโครงตาข่าย จึงให้เกิดการยกกระชับทันที และยังมีการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อและความต้านทานแรงดึงได้มากกว่าการร้อยไหมทั่วไปถึง 80 เท่า
การร้อยไหมด้วยไหมโครงข่าย ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ไม่ต้องพักฟื้นนาน และคงผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1-2 ปี